ความดันโลหิตสูงภาวะแทรกซ้อนที่สัมพันธ์กับภาวะดื้ออินซูลิน

ความดันมีที่มาที่ไป

ความดันโลหิตสูง ต้องหาสาเหตุ อย่าใช้ยาอย่างไร้จุดหมาย

มีหลายคนที่มีอาการเวียนศีรษะ หรือปวดหัวแล้วตรวจพบความดันสูง ก็มักจะคิดว่าอาการที่ปวดและเวียนเกิดจากความดันโลหิตสูง แล้วก้มหน้าก้มตาทานยาความดันต่อไป
ซึ่งอาจเป็นความคิดที่ถูก แต่ไม่ได้ถูกทั้งหมด

ยกตัวอย่าง เวลาคุณไปออกกำลังกาย ไปวิ่ง ไปตีแบด ยกเวท ขณะที่ออกกำลังกายมาวัดความดันก็จะพบว่าความดันของคุณสูงมาก SBP อาจ 140-180+ แต่เราไม่ตกใจกันเพราะอะไร
นั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นสรีระวิทยาปกติที่เกิดจากร่างกายตรวจพบว่ากล้ามเนื้อและสมองต้องการเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น

ในขณะเดียวกันถ้าคุณเส้นเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน เวลาคุณไปห้องฉุกเฉินความดันคุณก็มักจะสูงเอามากๆ นั่นก็เป็นเพราะร่างกายตรวจพบว่าสมองต้องการเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น

ผมยกตัวอย่าง 2 กรณีข้างต้นเพื่อให้เห็นว่า ความดันสูง ไม่ใช่”โรค” แต่เป็นอาการแสดง การทานยาลดความดันเป็นการรักษา “อาการ” ไม่ใช่สาเหตุ แล้วสาเหตุที่แท้จริงของ Primary/Essential Hypertension ที่เรามักถูกบอกต่อๆกันว่าไม่มีสาเหตุหรือยังหาสาเหตุไม่เจอล่ะคืออะไร

อันนี้เป็น คคหสต นะครับ(กาลามสูตรนิดนึงนะครับ)

ก่อนอื่นเราต้องแยก secondary hypertension ออก เพราะเกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ การรักษาคือไปรักษาที่ต่อมที่ผิดปกติ

ผมมองว่าความดันโลหิตสูงเวลาเราแก่ตัวลง หรือบางคนไม่แก่ขนาดนั้นละไม่ได้มีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ การที่อยู่ดีๆคุณมีความดันโลหิตสูงเกิดจากการมีปัญหาของการไหลเวียนเลือดที่ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อวัยวะปลายทางเริ่มตรวจพบภาวะ Hypoxia หรือการขาด Oxygen ในระดับเซลล์ จึงจำเป็นต้องมีการส่ง Feedback ผ่านทางระบบประสาทอัตโนมัติและฮอร์โมน เพื่อให้หัวใจสูบฉีดเลือดออกมามากขึ้น โดยผลจากการทำงานหนักในระยะยาวของหัวใจจะส่งผลให้ผนังกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวมากขึ้นดั่งคนเล่นกล้าม

เพราะฉะนั้นเราต้องมองหาว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลาย อาทิเช่นได้ลดลง ซึ่งระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกายก็มีหัวใจเหมือนปั๊มน้ำ และหลอดเลือดเป็นท่อน้ำ คุณว่าปัญหามันน่าจะอยู่ตรงไหน ลองคิดตามดูนะครับ เรามีสมมติฐานที่ว่าภาวะดื้ออินซูลินหรือว่าวะที่มี oxidize LDL หรือการอักเสบในร่างกายที่สูงสัมพันธ์กับ Atherosclerosis หรือมีการหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดง ทำให้รูท่อมันเล็กลง และเมื่อระยะเวลาผ่านไปปัจจัยที่ให้มีภาวะตรงนี้ยังอยู่ก็จะทำให้ รูมันตีบลงเรื่อยๆ อวัยวะส่วนปลายก็เริ่ม Hypoxia สอดคล้องกับกลไกข้างต้นที่ผมได้กล่าวไป

จะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นของความดันโลหิตสูงนั้นใช้ระยะเวลานานกว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน คล้ายๆกับเบาหวานที่ค่อยๆสะสมความผิดปกติเรื่อยๆจนกว่า beta-cell จะหมดแรงที่นี้เราทานยาลดความดันไปเพื่ออะไร
มีงานวิจัยที่เค้าแสดงให้เห็นว่าการที่ระดับความดันโลหิตสูงจนเกินระดับวิกฤติ คือ SBP>180 mmHg ติดต่อกันนานเกิน เพิ่มโอกาสในการเกิดเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลันได้

เพราะฉะนั้นนอกจากการทานยาแล้วเราก็ควรที่จะลดปัจจัยที่ทำให้เกิด Atherosclerosis ด้วยเช่นกันครับ

ขอบคุณครับ
Diet Clinic by Dr.Tim

[elementor-template id=”1368″]
Show More

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Check Also
Close
Back to top button