ทานอาหารถูกหลัก LDL ควรเพิ่ม

ขออนุญาติแชร์ Lipid Profile ของตัวเองเล็กน้อยนะครับ
ในกราฟ Timeline ที่ผมนำเสนอ ฝั่งซ้ายก่อนถึงเดือน 4 ปี 2018 ผมทาน Standard american diet คือ อาหารที่ทานมักจะเต็มไปด้วยคาร์บ หลังเดือน 4 ผม ปรับโภชนาการลงเป็น Very low carb
ส่วนใหญ่จะเป็น KD ประมาณ 70% CD 30%+IF สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ น้ำหนักลดลง TG ลดลง LDL-c สูงขึ้น Cholesterol สูงขึ้น(300+)
ซึ่งก็ตรงตามทฤษฎีที่ตั้งไว้เลยคือ ร่างกายมีกาย Access TG ออกใช้งานได้มากขึ้นผ่าน LDL ซึ่งมี Cholesterol เป็นองค์ประกอบมาเป็นตัวกลางในการถ่ายโอน TG

ถามว่ากลัวคอเลสเตอรอลไหม ไม่กลัวตายจากโรคหัวใจเหรอ
คำตอบ ไม่กลัวครับ เหตุผลอยู่ในวันที่ 16 ก.พ. นี้ครับ ของคุณหมอป๊อป DietDoctor Thailand ตามลิงค์นี้เลย https://tinyurl.com/qp93s4f
ก่อนจะถึงกลางปี 2019 คือช่วงที่จะเห็นมีการลดลงของ Cholesterol และ LDL ซึ่งผมคาดการณ์ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ร่างกายมี Fully Ketoadaptation ซึ่งอัตราการใช้ Lipoprotien จะลดลง
หลังจากเดือนกรกฎาคม 2019 ผมทดลองกลับมาทานคาร์บใหม่ S.A.D เหมือนเดิม แต่ IF อย่างน้อย 16 ชม ทุกวัน จะเห็นว่า LDL และคอเลสเตอรอลก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะผม Switch ให้ร่างกายมาใช้คาร์บเป็นหลัก ร่างกายไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Lipoprotien มา Circulate TG เยอะเท่าแต่ก่อนแล้ว อีกอย่างคือ หลังงานเยอะมาก ไม่ได้ไปออกกำลังกายเท่าไหร่ด้วย

แต่ทำไม TG ถึงไม่สูงขึ้น หรือขึ้นนิดเดียว?
สิ่งนีี้เรียกว่า “Metabolic Flexibility” คือ ร่างกายสามารถสลับการใช้พลังงานได้ทั้ง Carb และ Fat
จากที่เคยมีอาการหิวโหยหรือเวียนหัวเหมือนแต่ก่อนที่กินคาร์บแล้วไม่ได้ทานข้าวเช้า แต่ตอนนี้ไม่แล้ว แม้ว่าจะทานคาร์บก็สามารถลาก IF ไป 18>24 ได้เหมือนเดิม ต้องขอบคุณกรรมดีที่ทำมา 555
เพราะฉะนั้นถ้ามีคนถามว่า KD CD จำเป็นต้องเคร่งและต้องกินแบบนี้ไปตลอดชีวิตมั้ย > ผมก็คงตอบว่าไม่จำเป็นครับ แต่คุณต้องรู้ว่า Metabolic Flexibility คุณอยู่ตรงไหน ทำไงให้ได้กลับมา
แต่ว่าหลังจากนี้ผมจะกลับไปคุมคาร์บเหมือนเดิมและ ปล่อยไว้ ได้มีหวังกลายเป็นเพื่อนเบาหวานแบบจริงๆ ที่ทำนี่แค่อยากรู้นะ
***หมายเหตุ อย่าทำตามนะ ถ้าคุณดื้ออินซูลินมากๆ
รักนะจุ๊บ