บทวิเคราะห์ The Keto Trial(Preliminary Trial)

อีกหนึ่งการศึกษาที่สำคัญที่กำลังจะถูกตีพิมพ์ (ตอนนี้มีแต่บทคัดย่อ) แต่ผลลัพธ์นั้นน่าสนใจไม่น้อย คือ The Keto Trial
**จุดประสงค์ของการศึกษา:**
คือต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อในเรื่องของความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวของคอเลสเตอรอลในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ที่บอกว่ายิ่งเยอะ ยิ่งไม่ดี โดยเฉพาะในคนที่มีการจำกัดคาร์บและค่อนข้างที่จะดูสุขภาพดีมากๆ เมื่อดูจากภายนอก บางคนออกกำลังกายเป็นนิจ และเมื่อมีการตรวจระดับไขมันในเลือด เราจะพบว่าคนกลุ่มนี้มีระดับไตรกลีเซอไรด์ที่ต่ำ (TG<70) “LDL” >190, HDL >80 และค่อนข้างที่จะลีน โดยเราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า LMHR หรือ Lean Mass Hyper Responder ซึ่งแตกต่างจากคนที่ LDL สูงจากกรรมพันธุ์หรือ FH
การศึกษานี้จึงเป็นการค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างระดับ LDL และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในชาว LMHR
**ดัชนีวัดผลการตีบของหลอดเลือดหัวใจ:**
ผู้เข้าร่วมการวิจัยจะได้รับการเข้าอุโมงค์เพื่อสแกนหาคราบพลัคในหลอดเลือดด้วยการฉีดสี+ถ่ายรังสี CCTA และสแกนหาหินปูน CAC ซึ่งก็คือคราบพลัคที่กลายเป็นหินปูนไปแล้ว ซึ่งก็จะมี Score บอก
**ลักษณะของ LMHR และระยะเวลาในการติดตาม:**
กลุ่มเปรียบเทียบของ The Keto Trial ใช้กลุ่มเปรียบเทียบทางผู้เข้าร่วมงานวิจัยในอีกงานวิจัยนึงที่ชื่อว่า Miami Study ซึ่งเป็นการศึกษาขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่าถึง 2900 คน ในขณะที่ Keto Trial มีผู้เข้าร่วมวิจัยที่นำมาวิเคราะห์เพียง 80 คน โดยอายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมงานวิจัยทั้งสองชิ้นคือ 55.5 ปี ติดตามไปเป็นระยะเวลา 4.7 ปีหลังจากเริ่มตัดแป้ง
**รู้จักกลุ่ม control ที่เอามาเทียบ Miami Study กันนิดนึง:**
Miami Heart Study หรือ MiHeart เป็นโครงการวิจัยเชิงสถิติขนาดใหญ่ที่ศึกษาสุขภาพหัวใจในคนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจ โดยติดตามกลุ่มผู้ใหญ่ที่หลากหลายเป็นระยะเวลานาน ใช้การสแกนหัวใจและการตรวจเลือดอย่างละเอียดเพื่อตรวจวัดค่าต่างๆ เช่น ระดับคอเลสเตอรอลและคราบพลัคในหลอดเลือด และผู้วิจัยจาก Keto Trial ได้เลือกกลุ่มเปรียบเทียบจาก MiHeart ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมา 80 คนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ ความเสี่ยงด้านอื่นๆ เว้นแต่ในเรื่องของระดับไขมันในเลือด โดยระดับ LDL-C ใน Keto Trial=ก่อนทำ Keto=122/หลังทำ Keto=272 mg/dl | LDL-C ใน MiHeart=123 mg/dL
**ไม่พบความแตกต่างกันในแง่ของคราบพลัคและหินปูนในหลอดเลือดหัวใจของ LMHR และ MiHeart:**
ผลลัพธ์ที่น่าสนใจคือทั้งๆ ที่ LDL-C ของ The Keto Trial จะหลุดออกมาจากเกณฑ์ที่เราเรียกว่าปกติอย่างใน MiHeart แต่ผลลัพธ์เมื่อระยะเวลาผ่านไปไม่พบความแตกต่างของความเสียหายที่หลอดเลือดหัวใจ เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่แย้งกับสมมติฐานเรื่องระดับคอเลสเตอรอลที่สูงกับความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจแต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขของการมีระบบเผาผลาญที่ยืดหยุ่น
ตอนนี้ผมก็รอตัว Full Manuscript ออกเหมือนกัน และในการศึกษานี้ผมก็มองว่ายังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น จำนวนของผู้เข้าร่วมวิจัยที่น้อย ระยะเวลาที่ไม่ได้นานมากมาย และแน่นอนว่าคนที่เอามาไลฟ์สไตล์ของ LMHR นั้นก็มีแนวโน้มที่แสนจะ Healthy แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือคนที่ LDL สูงที่สุดคือ 500!! น่าวิเคราะห์แยกมากๆ ส่วนตัวยังการศึกษาระยะยาวของ Denmark และ Keto-CTA longitudinal analysis อยู่
แต่ก็เอาเป็นว่างานวิจัยข้างต้น จุดประเด็นของการตั้งคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับการแปลผล LDL-C ว่าแท้จริงแล้วสามารถ Apply ได้ในคนทุกคนเลยจริงหรือไม่
ท้ายที่สุด ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ แล้วก็อย่าลืมพูดคุยกับแพทย์ที่คุณรักหากคุณจะลองเล่นกับระบบ LDL
PS. The Keto Trial เป็นการศึกษาที่ไม่มีเงินทุนจากบริษัทยาหรืออาหารใดๆ แต่มีเงินทุนจากการบริจาคของประชาชนที่สนใจในเรื่องของ Lean Mass Hyper Responder แต่ปัจจุบันระดมทุนไปได้กว่าเกือบ 100,000 เหรียญแล้ว