
อย่างที่เราทราบกันดีว่า DNA นั้นเปรียบเสมือนแม่พิมพ์ของเซลล์ต่างๆในการที่จะเป็นต้นแบบในการแบ่งเซลล์ต่างๆให้ออกมาหน้าตาปกติ ไม่เป็นพิษภัย ซึ่งสาย DNA ทั้งตัวจะมีต่ำแหน่ง ให้โปรตีนมาจับคู่กันรวมๆกันแล้วน่าจะเป็น”ล้าน ล้าน”ตำแหน่ง ที่สามารถถูกรบกวนและเกิดความผิดปกติขึ้นได้ ซึ่งความผิดปกติเพียงไม่กี่คู่ก็ทำให้เซลล์ที่ถูกตีพิมพ์ออกมาจากแม่แบบนั้นกลายพันธ์เป็นเซลล์ร้ายได้ทันที และข่าวร้ายก็คือมนุษย์เรา DNA เหล่านี้เกิดความเสียหายขึ้นอยู่ในทุกๆวัน

แต่ข่าวดีคือร่างกายเองก็ด้วยความสามารถอันแสนวิเศษ พระเจ้าได้มอบพรที่เป็นความสามารถเฉพาะที่เรียก Autophagy ขึ้นมา ที่จะคอย Recycle เซลล์ที่มี DNA ผิดปกติเหล่านี้ออกไปได้อย่างหมดจด แต่ถ้าความเสียหายตรงนี้ควบคุมไม่ได้ เกิดเป็นเซลล์ใหม่ที่มีคุณสมบัติในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และโตแบบไม่สนสี่สนแปดใดๆ มีคุณสมบัติเข้าได้กับ Hallmark of cancer เราก็จะเรียกเซลล์เหล่านี้ว่า”มะเร็ง”
“Warburg effect คืออะไร”
Warburg effect คือ 1 ในคุณสมบัติสำคัญของมะเร็ง(hallmark of cancer) ซึ่ง Dr. Otto Warburg ได้ศึกษายีสต์ที่มีคุณสมบัติเหมือนมะเร็ง และเค้าพบว่ามะเร็งมีปรากฏการณ์นึงที่แตกต่างไปจากเซลล์ปกติคือ เซลล์เร็งมีอัตราการ Glycolysis หรือสลายกลูโคสมาเป็นพลังงานโดยไม่ใช้ oxygen มากกว่าเซลล์ปกติถึง 70-200 เท่า โดยมีสมมติฐานจากไมโตคอนเดรียไม่มีคุณภาพพอ และมีการทำงานของประตูรับกลูโคสเข้าเซลล์มะเร็งที่มากผิดปกติ
ในรายที่เป็นมะเร็งที่มีจำนวนเซลล์มะเร็งเยอะๆหรือเป็นชนิดที่ดุๆ อาจมีภาวะ Hyper-Warburgism คือกลูโคสจำนวนมากถูกจับเปลี่ยนเป็น Lactate จนหมด ทำให้มีน้ำตาลต่ำ และเลือดเป็นกรดตามมา เเพราะว่าเซลล์มะเร็งพวกนี้มันหิวโหยเอามาก
และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเรายิ่งให้กลูโคส เลือดก็ยิ่งเป็นกรดมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงการสวาปามของมะเร็งที่มีกับน้ำตาล

“คีโตกับความหวัง”
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณก็คงจะพอเห็นกลไกคร่าวๆในการจัดการกับเซลล์มะเร็งขอบคีโตด้วยเหตุผลคือ
1. คาร์บถูกตัด น้ำตาลที่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของมะเร็งหายไป
2. อินซูลินลดลง
3. โปรตีนในปริมาณที่ไม่มากเกินไปช่วยจำกัด mTOR pathway, IGF-1 ไม่ให้กระตุ้นการโตของเซลล์มะเร็ง
4. Autophagy ที่ถูกกระตุ้นด้วย Ketosis state and Intermittent Fasting
ซึ่ง 4 ข้อข้างต้น Intermittent fasting ก็ถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของวงการเลย แต่คงจะดีมากถ้ามีน้องรองอย่าง Keto มาช่วย
ผมขอยกตัวอย่างเคสที่เคยรายงานไว้ของต่างประเทศ
เคสแรกในปี 1962 ศูนย์สุขภาพจิตประจำกรุงนิวยอร์คต้องการรักษาผู้หญิงสองรายที่มีภาวะทางจิตเวชด้วยการฉีดอินซูลินในปริมาณเยอะมากๆ Dump จนน้ำตาลต่ำแบบสุดๆ เชื่อว่าจะช่วย Reset สมองใหม่(insulin coma therapy สมัยก่อนก็จะดิบหน่อย แต่ไม่ค่อยมีใครทำกันแล้ว เพราะเสี่ยงมากและเคยมีคนตายจากน้ำตาลต่ำ) 2 คนนี้มีปัญหามะเร็งปากมดลูกและมะเร็งผิวหนังระยะลุกลาม พบว่าหลังกดน้ำตาลด้วย Insulin แบบโหดๆไป 2 เดือนตรวจไม่พบมะเร็งและอาการซึมเศร้าหายไปด้วย(1)

เคสที่สองเป็นการศึกษาในคนที่เป็นมะเร็งของระบบประสาทที่เรียกว่า Glioblastoma โดยการให้ทานคีโตร่วมกับการฉายแสงและให้เคมีบำบัดพบว่า 1 ปีที่คุมอาหารอย่างเคร่งครัด เมื่อเอกซเรย์สมองพบว่าตัวนั้นไม่มีการลุกลามใดๆ และมีแนวโน้มที่ลดลง แต่เมื่อหยุดคุมอาหารไป 10 อาทิตย์ ตัวมะเร็งกลับเห่อขึ้นมาอีกครั้งนึง(2)
นอกจากนี้ยังเคสเด็กที่เป็นมะเร็งที่สมองและสามารถมี Life span ที่ดียืนยาวเกินคาดจากการใช้โภชนาการเหล่านี้เพื่อนสามารถลองหาๆดูได้ครับ
คงต้องย้ำกันอีกทีว่าผมไม่สามารถการันตีได้ว่าถ้าคุณใช้โภชนาการคีโตแล้วคุณจะหายจากมะเร็งนะครับ ยังมีงานวิจัยที่เกี่ยวกับโภชนาการคาร์บต่ำกับมะเร็งที่อยู่ระหว่างการทำ แต่ยังไม่ถูกตีพิมพ์ ที่ผมตามอยู่ก็มีประมาณ 5-6 การศึกษา ซึ่งแนวโน้มผลก็ไปในทางบวก ผมก็เลยคิดว่าไม่เสียหายอะไรถ้าจะลองทำตามดู และคาดว่าผลลัพธ์น่าจะออกมาดีหากประยุกต์ใช้ร่วมกับการรักษาแนวทางปัจจุบัน

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุดก็คือป้องกันไม่ให้ DNA มีการกลายพันธ์ุที่มากจนเกินไปตั้งแต่แรก แต่เมื่อไหร่ที่มันไปไกลแล้ว มันก็จะแก้ยากเป็นธรรมดา
ขอบคุณครับ
Diet Clinic by Dr.TIM
PS1:(Insulin coma therapy คือ Acute hyperinsulinemia แต่ภาวะดื้ออินซูลินคือ Chronic Hyperinsulinemia แตกต่างกันนะครับ อย่าสับสน)
PS2 ผมไม่ได้อวยคีโตนะครับ ผมมีหน้าที่แค่ให้ความคิดเห็นตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มี และความรู้ทางชีววิทยาเบื้องต้น ชาว CD หรือ Low carb เวย์อื่นๆก็อย่าน้อยใจ ส่วนตัวผมก็ชอบทานเนื้อแบบ CD และก็มีทานคาร์บด้วย เพราะเป้าหมายผมไม่เหมือนคุณ ถ้าคุณทำแล้วเห็นผลลัพธ์อย่างที่ต้องการโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนผมก็ดีใจแล้ว เพราะฉะนั้นชาว CD หรือ Low carb way อื่นๆก็ไม่ต้องน้อยใจนะครับ
Ref
1.Two cases of malignant tumors with metastases apparently treated successfully with hypoglycemic coma. S. Koroljow
2.Metabolic management of glioblastoma multiforme using standard therapy together with a restricted ketogenic diet: Case Report Giulio Zuccoli
[elementor-template id=”1368″]