หลอดเลือดแดงตีบและแข็ง

โรคหลอดเลือดแดงอุดตัน(Atherosclerosis)

เกริ่นก่อนว่าอาจวิชาการนิดนึงนะครับ แต่ผมอยากให้เข้าใจที่มาที่ไป เพราะสาเหตุของโรคมีผลมาจากเราเอาเข้าสู่ร่างกายทั้งนั้น รู้สาเหตุก็แก้และป้องกันได้ จะได้ไม่ต้องมาโทษว่าแก่แล้ว

หลอดเลือดใหญ่ๆของร่างกายเราจะมี 2 แบบหลักๆ คือ

1. หลอดเลือดดำ(Vein) vein คือ เส้นเลือดที่เลือดมีทิศทางวิ่งกลับเข้าสู่หัวใจ แขนงที่เชื่อมต่อกันมากมาย ผนังจะบางแต่ปริมาตรเยอะสามารถบรรจุเลือดได้เป็นจำนวนมาก

2. หลอดเลือดแดง(Artery) artery คือ หลอดเลือดที่เลือดมีทิศทางออกจากหัวใจ มีแรงดันภายในหลอดเลือดสูง ชั้นผนังหนากว่า ทำหน้าที่ลำเลียงเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ เป็นหลอดเลือดที่สร้างปัญหาได้มากเวลามีการอุดตัน

หลอดเลือดก็เหมือนท่อน้ำ ถ้าท่อน้ำดีมีคุณภาพ ก็จะไม่มีสนิมไปเกาะกรังให้หนา ถ้าน้ำดีไม่มีสิ่งแปลกปลอมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตะกอนอุดตัน

หลอดเลือดแดงมีกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง แต่อวัยวะที่สำคัญบางแห่งมีเส้นเลือดแดงหลักไม่เยอะมาก ใช้เส้นเลือดแค่เส้นสองเส้นในการเลี้ยงอวัยวะนั้น เวลาอุดตันก็จะเป็นอันตรายได้มากมายมหาศาล เช่น หัวใจ สมอง

แล้วหลอดเลือดของมนุษย์ โดยเฉพาะหลอดเลือดแดง อุดตันได้อย่างไร

ที่ผิวด้านในของหลอดเลือดแดงจะมีเซลล์ที่เรียกว่า endothelium เรียงกันประกอบกันเป็นผนังหลอดเลือดด้านใน มีหน้าที่ในการควบคุมการตอบสนองของเส้นเลือดจากสารต่างๆโดยเฉพาะการหดและขยายของหลอดเลือด ที่ชั้นบนสุดจะมีแผ่นฟิล์มบางๆที่เรียกว่า Glycocalyx ทำหน้าที่เป็นเหมือนกำแพงปราการที่คอยป้องกันสารต้องห้ามหลุดผ่านเข้าไปในชั้นลึกของผนังหลอดเลือด และป้องกันไม่ให้เกร็ดเลือดเกาะเป็นลิ่มเลือดอีกด้วย

ถ้า Barrier ที่เรียกว่า Glycocalyx นี้เสียหาย จากสาเหตุใดๆก็แล้วแต่ จะทำให้มีช่องว่างของผนังหลอดเลือดเกิดขึ้น เกิดการ deposit ของสิ่งที่ไม่ควรไปอยู่ อาทิเช่น Oxidized LDL(oxLDL) อันเนื่องมาจาก เวลาผนังหลอดเลือดเกิดความเสียหาย ร่างกายจำเป็นต้องส่งหน่วยปฐมพยาบาล เพื่อเอาคอเลสเตอรอลไปฉาบตรงที่เสียหายให้กลับมาดีเหมือนเดิม(ยังจำโครงสร้างของ LDL ได้ไหม) แต่ทว่า LDL ที่ควรจะปกติกลับกลายเป็น LDL ที่ไม่เสถียร หลุดเข้าไปพอกพูนในชั้นผนังของหลอดเลือด เนื่องด้วยความไม่เสถียร oxLDLร่างกายจะพยายามหาทางกำจัดออกโดยการดึงเอาเม็ดเลือดขาวมากิน

แต่ปัญหาคือมนุษย์เรามีพฤติกรรมที่สร้าง oxLDL ตลอดเวลา ประกอบกับหาเรื่องใส่ตัวให้ Glycocalyx พังเรื่อยๆ ทำให้มีการสะสมของ Foam cell(เม็ดเลือดขาวที่กินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป) เกิดเป็น Plaque รวมกันเป็นชั้นหนาๆ ทำให้รูหลอดเลือด ตีบลงไปโดยปริยาย

เวลาผ่านไปก็จะมี calcium มาฝังๆ ทำให้เส้นเลือดกรอบ ไม่ยืดหยุ่นเหมือนเคย เวลาที่ควรจะขยายก็ขยายไม่ได้ เคยเป่าลูกโป่งที่ตากแดดจนกรอบไหมครับ นั่นแหละ คล้ายๆกัน

เบาหวานเกี่ยวข้องอะไรกับ Glycocalyx

มีวิทยาศาสตร์เอาเส้นเลือดของคนที่เป็นเบาหวานกับคนปกติไปส่องดูใต้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง พบกว่าในคนที่เป็นเบาหวาน ชั้น Glycocalyx นั่นบางลงอย่างมีนัยสำคัญ เชื่อว่าเป็นผลมาจากการกระบวนการ Glycation การสะสมสารอักเสบ และอนุมูลอิสระ รวมถึง LDL ไร้คุณภาพและถูก Oxidize โดยน้ำตาล

%ของการตีบจะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อย จาก 0 ไปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนความรักที่ผมมีให้คุณ แหวะ… ส่วนใหญ่กว่าจะมีอาการคือ ตีบ >70% ขึ้นไป นั่นแสดงว่าถ้ามีอาการ คือ คุณเป็นมานานมากแล้ว และเป็น”เยอะ”แล้ว และน่าจะเป็นทั้งตัว

บางคนเป็นที่ไต แต่กลับชะล่าใจว่าที่หัวใจไม่มี ที่สมองไม่มี ไม่ตระหนัก ใช้ชีวิตเหมือนเดิม

ฟ้าอุตส่าห์เมตตา ส่งสัญญาณเตือนและให้โอกาสแก้ตัวแล้ว รีบๆแก้ไขดีกว่าครับ

ยาวไปเดี๋ยวไม่อ่าน มีอีกหลายโรครอให้อ่านเลยครับ

Keyword ที่จะเอาไปประยุกต์ใช้

1. ผนังหลอดเลือดเสียหาย ปัจจัยสำคัญ เช่น น้ำตาลในเลือดสูง อนุมูลอิสระจากสารที่ไม่ธรรมชาติ เช่น บุหรี่ สารเคมีที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

2. Oxidized LDL มากไป ปัจจัยสำคัญ คือ ภาวะดื้ออินซูลิน

-ขอบคุณครับ-

[elementor-template id=”1368″]