โภชนาการพร่องแป้ง ไม่ทำให้โยโย่

ผมว่าถ้ามีโฆษณายาลดความอ้วนที่เคลมแบบนี้มา ต่อให้เม็ดละพันก็มีคนซื้อ
มีงานวิจัยชิ้นนึงซึ่งน่าสนใจ เป็น Randomize multicenter trial ในสหรัฐ เปรียบเทียบผลของโภชนาการคาร์บต่ำกับคาร์บทั่วไป แล้วติดตามไป 20 อาทิตย์ พบว่ากลุ่มคนที่ทานสัดส่วนคาร์บต่ำ มี total energy expenditure เพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับผู้ที่ทานคาร์บทั่วไป นั่นหมายความว่า ร่างกายมีการอัตราการเผาผลาญพลังงานที่เพิ่มมากกว่าเดิม แม้จะทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม

นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนเกรลิน(Ghrelin)หรือฮอร์โมนหิวนั้นต่ำลง ทำให้ไม่หิวบ่อย มีระดับความไวของฮอร์โมนเลปติน(Leptin)หรือฮอร์โมนอิ่มหรือฮอร์โมนเผาไขมัน แล้วแต่จะเรียก เพิ่มสูงขึ้น
ถ้าใครเข้าใจกลไกการทำงานของฮอร์โมนเลปตินกับอินซูลินก็จะรู้ว่า ถ้าเราลดน้ำหนัก แล้ว TEE หรืออัตราเผาผลาญลดลงไปพร้อมกับน้ำหนัก คนนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดโยโย่ได้ แต่ในโภชนาการคาร์บต่ำ ร่างกายจะสามารถใช้พลังงานจากไขมันได้มากขึ้น ป้องกันการโยโย่ได้ด้วยผลจากการที่ร่างกายสามารถเข้าถึงไขมันที่สะสมได้ดีกว่า แถมเบิร์นมากขึ้น
พูดง่ายๆคือ ได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง

ในเปเปอร์เมื่อเทียบที่ 2,000 kcal อาหารคาร์บต่ำสัดส่วนเค้าจะเป็น
carb 20%(ประมาณ 100 กรัม) prot 20% Fat 60%
คาร์บทั่วไป
carb 60% prot 20% Fat 20%
จะเห็นว่ารูปแบบอาจไม่ใช่ ketogenic หรือ very low carb diet แต่ประโยชน์ที่ได้ก็ค่อนข้างแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
ผมหวังว่าข้อมูลตรงนี้ น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาโรคอ้วนอยู่และกำลังเลือกวิธีลดน้ำหนักกันอยู่นะครับ
ลิงก์เผื่อใครสนใจอ่านฉบับเต็มครับ https://www.bmj.com/content/363/bmj.k4583
#เพื่อนเบาหวาน by Dr.Tim
[elementor-template id=”1368″]