How to deal with Insulin “Overproduction”
การจัดการกับภาวะดื้ออินซูลิน
ต่อจากบทความที่แล้ว เมื่อเรารู้ว่าภาวะอินซูลินที่สูงมากๆในกระแสเลือดทำให้ Flexibility ของ Metabolism shift ไปทางสีแดงมากขึ้น ก่อให้เกิดโรคต่างๆนานาๆ
แล้วเราจะมีวิธีการจัดการกับมันยังไง
“You are what you eat” คำพูดของคุณลุง Fernando ชายอายุ 110 ปี ผู้ที่ไม่เคยป่วยด้วยโรค Chronic disease แห่งรัฐ Arizona ยังคงใช้ได้ และก้คงได้ใช้ไปตลอด
อย่างที่ทราบกันดีว่า ภาวะดื้ออินซูลินจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อร่างกายได้รับผลกระทบจากการทำงานของอินซูลินในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน
แล้วเราก็รู้ดีว่า อาหารประเภทไหน กระตุ้นอินซูลินได้มากน้อยแค่ไหนซึ่งก็คงต้องเปิดตารางดู glycemic index กัน เรียงจากมากไปน้อยก็คือ คาร์บ โปรตีน และไขมัน
ดังนั้น ในเรื่องของโภชนาการ ทุกครั้งที่อาหารจะเข้าปาก เราต้องคิดในใจอยู่เสมอว่า WHAT to eat and WHEN to eat ของที่จะทานมีผลต่อระดับอินซูลินมากไหม
infographic ข้างล่าง จะสื่อให้เห็นว่า ทุกครั้งเวลาเราทานอาหาร Peak หรือจุดสูงสุดของ insulin level ก็จะแปรตามประเภทอาหารที่ทาน
ร่างกายไม่มีระบบพรายกระซิบหรอกครับว่า อันนี้บ่ายสองกินคุ้กกี้กับคาปูร้อนนิดหน่อยนะ ไม่ต้องนับเป็นมื้ออาหาร ฮอร์โมนไม่ต้องหลั่งนะ หลายคนชอบคิดว่า ก็ฉันไม่ได้กินข้าวเยอะนี่ ทำไมถึงยังอ้วน
พอมานั่งเขียนของที่เข้าปากจริงๆก็ ตามนั้นเลยครับ เกือบทุกชั่วโมง
กราฟอินซูลินก็จะขึ้นลงเป็นรถไฟเหาะอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
ดังนั้นเนี่ย การที่จะลดปริมาณอินซูลง
1. เราก็ต้องอย่าให้ฮอร์โมนมันขึ้นลงบ่อยๆ เต็มที่เลย 1 วันไม่เกิน 3 ทีก็พอแล้ว แต่ในคนที่มี Insulin resistance แล้ว 1 ครั้งจะประเสริฐสุด ต้องเลิกกินจุบจิบ หัด IF บ่อยๆ จัดการความเครียดให้ดี นอนหลับให้ลึกพอ
2. ลด Peak หรือปริมาณอินซูลินที่หลั่งลง นั่นคือเลือกโภชนาการที่เหมาะสม จะ Keto CD Atkin Paleo อะไรก็ว่ากันตาม spectrum สมดุลพลังงาน
3. หาตัวช่วย อาหารที่จะคานอำนาจของน้ำตาลและอินซูลิน เช่น Fiber along with meal, Vinegar เป็นต้น
ผมแนะวิธีคร่าวๆไปแล้ว เป็นยังไงกันบ้าง
มาตอบคำถามชิงรางวัลเป็นหัวใจกันอีกครั้งนะครับ
คุณรู้หรือไม่ว่ามีน้ำตาลอยู่ 1 ชนิดที่แทบไม่มีผลกับระดับน้ำตาลในเลือด และระดับอินซูลินเลย แต่กลับทำให้ภาวะดื้ออินซูลินดื้อมากขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำตาลชนิดนั้นคืออะไร?
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ขอให้สุขภาพดีกันทุกคนครับ
[elementor-template id=”1368″]
