ทำไมร่างกายของเราต้องการเกลือแร่มากกว่าปกติในช่วงแรกของการลดน้ำหนัก

ป้องกันภาวะคีโตฟลู
การเพิ่มปริมาณเกลือแร่ที่เราทานสำคัญมากในช่วงแรกของการลดน้ำหนักด้วยโภชนาการพร่องแป้งหรือคีโตเจนิค เนื่องการการลดลงของระดับอินซูลินจะทำให้ร่างกายปลดปล่อยน้ำตาลที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อรวมถึงไขมันที่เริ่มจะมีการสลาย ซึ่งจะออกมาพร้อมๆกับแร่ธาตุที่ร่างกายเคยเก็บไว้ นอกจากนี้ระดับอินซูลินที่ต่ำทำให้การเก็บสะสมของเกลือแร่ในร่างกายลดลงด้วย ทำให้ความต้องการเกลือในแต่ละวันอาจเพิ่มสูงถึง 4,000-6,000 มก.ต่อวันได้เลย(เกลือ 1 ช้อนชาจะมีเกลือประมาณ 2,000 มก.)หากร่างกายมีการสูญเสียแร่ธาตุเหล่านี้มากจนเกินไปก็จะทำให้มีอาการผิดปกติจุกจิกตามมาได้ อาทิเช่น เพลีย แรงตก ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ท้องผูก มึนศีรษะ
อาการคีโตฟลูไม่ได้เป็นตลอดไป
ในร่างกายของคนส่วนใหญ่ฮอร์โมนจะสามารถกลับเข้าสู่สมดุลได้ด้วยตัวเอง จะเร็วจะช้าก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่ใจในเรื่องของเกลือแร่มากน้อยแค่ไหน บางคนอาจหลัก 2-3 วัน บางคนอาจเป็นหลักสัปดาห์ แต่ผมแนะนำว่าพยายามอย่าให้ร่างกายขาดเกลือแร่จะดีที่สุดครับ
การแก้ไข
1.เพิ่มเกลือในน้ำดื่ม
นอกจากจะดื่มที่เราควรจะเลือกเป็นน้ำแร่ และดื่มให้ได้อย่างน้อย = 35 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมแล้ว คุณอาจต้องนำเกลือธรรมชาติ เช่น เกลือชมพู เกลือทะเล มาผสมน้ำเพื่อดื่มเพิ่มเติม ซึ่งผมแนะนำเป็นน้ำเกลือ Sole Water คุณสามารถดูวิธีการทำ Sole Water ได้ที่นี่

2.เพิ่มการทานเนื้อสัตว์ หรือซุปกระดูก
นอกจากเกลือโซเดียมที่เราอาจพร่องไปแล้ว โพแทสเซียมก็เป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ถ้าโซเดียมเป็นราคา โพแทสเซียมก็คือราชินี ในเนื้อสัตว์หรือในซุปกระดูกก็จะเป็นแหล่งของโพแทสเซียมอย่างดี รวมถึงสารอาหารที่สำคัญอื่นๆด้วย คนที่ทานเนื้อสัตว์ได้หลากหลายและไม่มีปัญหาก็จะได้เปรียบในส่วนนี้มากครับ
3.การเสริมแมกนีเซียม(Magnesium)
แมกนีเซียมเป็นหนึ่งแร่ธาตุที่เราสูญเสียได้มากที่สุดตัวนึง การขาดแมกนีเซียมนำไปสู่ความผิดปกติหลายอย่าง ที่พบบ่อยก็คือตะคริว นอนไม่หลับ ความดันสูง หากการแก้ไขใน 2 ข้อแรกไม่เป็นผล คุณก็สามารถซื้อแมกนีเซียมในรูปแบบแคปซูลมารับประทานเสริมได้ครับ ขนาดแนะนำคือเริ่มต้นที่ 100 mg ต่อวัน ไม่เกิน 600 mg ต่อวัน และรูปแบบของ Magnesium ที่แนะนำคือ Magnesium threonate/glycinate ครับ