แนวทางการรักษาและมอนิเตอร์โภชนาการพร่องแป้งไขมันพอกตับ

เหตุที่เราควรระมัดระวังน้ำตาลในผลไม้ทีเรียกว่า”ฟรัคโตส”

จริงๆแล้ว คำว่าน้ำตาลที่เราพูดถึงเรามักจะเข้าใจว่าเป็นสารที่ให้รสหวานและเหมาว่าเหมือนๆกันหมด แต่ในความเป็นจริง คำว่า”น้ำตาล”สามารถลงรายละเอียดไปได้อีก ดังเช่นในธรรมชาติ เรามักจะเคยได้ยินคำว่า น้ำตาลขาว น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊ป น้ำตาลโตนด ขัณฑสกร แม้จะให้ความหวานเหมือนกันแต่รสชาตินั้นแตกต่างกันอย่างสังเกตได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าประเภทน้ำตาลย่อย ที่เป็นโครงสร้างเริ่มต้นของน้ำตาลทุกชนิดได้แก่ กลูโคส ฟรัคโตสและกาแลคโตส มีสัดส่วนแตกต่างกัน

น้ำตาลฟรัคโตสคืออะไร

น้ำตาลฟรัคโตสเป็นน้ำตาลหน่วยย่อยๆเล็กๆที่ไม่ได้มีส่วนในการให้พลังงานแก่สมอง และกล้ามเนื้อ เมื่อน้ำตาลฟรุกโตส ได้เข้าไปในกระแสเลือด จะถูกนำไปสะสมที่ตับโดยตรง และสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันให้พอกบริเวณตับได้อย่างรวดเร็ว หากเราได้รับฟรัคโตสในปริมาณที่สูงหรือมีความเข้มข้นเยอะในปริมาณมากๆ ก็จะส่งผลให้ตับของเราถูกแทรกด้วยไขมันจนทำให้ประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานแย่ลง นำไปส่งโรคเรื้อรังได้เช่นกันครับ

พบได้ที่ไหนบ้าง

ฟรัคโตสในธรรมชาติ

ได้แก่ น้ำผึ้ง ผลไม้ต่างๆ โดยเฉพาะผลไม้ไทยที่อยู่ตามรถเข็น

ขอบคุณรูปภาพจาก nofructose.com

จากภาพด้านบนแกนแนวตั้งคือปริมาณน้ำตาลฟรัคโตส แกนแนวนอนคือปริมาณใยอาหาร คุณก็จะเห็นว่าผลไม้ที่น้ำตาลฟรัคโตสเยอะๆก็จะเป็นผลไม้ไทยซะส่วนใหญ่เมื่อเทียบกันผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีใยอาหารสูงและปริมาณฟรัคโตสที่ต่ำกว่าครับ

ฟรัคโตสสังเคราะห์

นี่คือตัวอันตรายมากๆเนื่องจากความเข้มข้นของฟรัคโตสจะค่อนข้างสูงและยังมีคุณสมบัติหลอกล่อสมองให้เสพติดได้อย่างยิ่งยวดอีกด้วย ไม่ควรทานเลยแม้แต่นิดเดียว

ฟรัคโตสสังเคราะห์นั้นมีทั้งรูปแบบน้ำเชื่อมและแบบผง แต่คุณรู้หรือไม่ครับว่า 90%ของอาหารสังเคราะห์ที่คุณทานอยู่ในทุกๆวันมีฟรัคโตสสังเคราะห์แฝงอยู่ทั้งสิ้น โดยที่เขาไม่ได้บอกเรา

ยกตัวอย่างเช่น

  • ซอสมะเขือเทศ
  • น้ำสลัด
  • ขนมขบเคี้ยว
  • น้ำดื่มชื่นใจต่างๆ
  • ไม่เว้นแม้กระทั่งนักเก๊ต

ผลไม้ก็มีประโยชน์นะ แล้วเราควรทำอย่างไรดี

ในทุกๆคนไม่ว่าสุขภาพจะดีหรือไม่อย่างไร ผมก็ไม่แนะนำให้ทานฟรัคโตสสังเคราะห์ทุกชนิด แล้วฟรัคโตสจากธรรมชาติล่ะคะคุณหมอ แม้ว่าผลไม้ต่างๆจะขึ้นชื่อว่าดี แต่อย่าลืมว่า คำว่า ผลไม้ตามฤดูกาลนั้น หาแทบไม่ได้อีกแล้ว รวมถึงหน้าตาของผลไม้ในปัจจุบันก็แตกต่างจากผลไม้สมัยก่อนค่อนข้างมาก

wild vs modern fruit

รูปฝั่งซ้ายมือเป็นรูปของผลไม้แต่ดั้งเดิมที่ดูแห้งๆ ไม่ได้อวบอิ่มเหมือนผลไม้ในปัจจุบัน อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมที่คัดสรรสายพันธุ์ที่ทำให้มนุษย์รู้สึกฟินเวลาทานที่สุดไว้ ทำให้เรามีแนวโน้มทั้งที่จะได้รับฟรัคโตสในปริมาณที่มากขึ้น และบ่อยมากขึ้น

ในผู้ที่กำลังลดน้ำตาล กำลังควบคุมน้ำตาลหรือรักษาเบาหวานให้หายขาด ผมจึงแนะนำให้ทานผลไม้อย่างมีการควบคุมปริมาณ พร้อมๆกับการออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่งควบคู่กันไปด้วยครับ เพราะผมยังคงเห็นด้วยว่าเรายังคงมีความต้องการสารอาหารกลุ่มแร่ธาตุ สารออกฤทธิ์ไฟโตนิวเทรียนที่พบได้น้อยในผักและเนื้อสัตว์อยู่ แต่เราไม่ได้ต้องการมันมาก ส่วนปริมาณแค่ไหนนั้น ผมแนะว่าในแต่ละสัปดาห์ซักหนึ่งถึงสองวันก็พอ และไม่เกิน 1 ฝ่ามือต่อวันครับ ถ้าเป็นไปได้ลองเลือกทานในกลุ่มตระกูลเบอรี่เป็นหลักครับ

หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้ไอเดียนะครับ

Show More

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button