ผลของน้ำตาลในเลือดที่สูงนานๆ(Advance Glycation End Products)

รู้มั้ยครับว่า น้ำตาลกลูโคสมันสามารถทำปฏิกิริยาเคมีได้เองแบบช้าๆ โดยไม่ต้องพึ่งเอนไซม์เลย ซึ่งปกติแล้วเกือบทุกปฏิกิริยาในร่างกายเราต้องใช้เอนไซม์มาช่วยเร่งทั้งนั้น ไม่งั้นมันจะเกิดช้ามากหรือไม่เกิดเลย
แต่น้ำตาลกลูโคสนี่พิเศษครับ มันสามารถค่อยๆ ทำปฏิกิริยากับกรดอะมิโนในโปรตีนต่างๆ ได้เอง เราเรียกกระบวนการนี้ว่า glycation
ตอนแรกมันจะกลายเป็นสารที่เรียกว่า Glu-AGEs ซึ่งตอนนี้ยังไม่อันตรายมากนัก ร่างกายยังจัดการได้ ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดปกติ เซลล์ก็จะควบคุมมันได้อยู่
ทีนี้ถ้าคนไหนเริ่มดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงลอยตลอด มันก็เหมือนมีวัตถุดิบเยอะเกินไป ปฏิกิริยาก็เลยเกิดเร็วขึ้น จนร่างกายเริ่มกำจัดไม่ทัน สารพวกนี้ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็น Reactive carbonyl ซึ่งอันตรายมากขึ้น และร่างกายก็กำจัดยากขึ้นด้วย
สุดท้าย มันก็จะกลายเป็นสารที่เรียกว่า AGEs (Advanced glycating end product) ซึ่งนี่แหละครับที่เป็นตัวร้าย เพราะมันไม่ใช่แค่กำจัดยาก แต่มันยังกระตุ้นการอักเสบในร่างกายด้วย
เวลาเม็ดเลือดขาวเจอสาร AGEs พวกนี้ มันจะคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่อันตราย ก็เลยปล่อยสารก่อการอักเสบออกมา ทั้ง IL-1, IL-6, TNF-a
ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ ในคนที่เป็นเบาหวานแล้ว น้ำตาลที่เยอะเกินจะถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลฟรุกโตส ซึ่งตัวนี้ก็สามารถสร้าง AGEs ได้เหมือนกัน
ดังนั้น ผมอยากแนะนำว่าเราควรป้องกันการดื้อต่ออินซูลินตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ ด้วยการ:
- ควบคุมน้ำหนักให้ดี
- ระวังเรื่องการกิน อย่ากินมากเกินไป
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- นอนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียดในร่างกาย เช่น บุหรี่ เหล้า
- ดูแลสุขภาพจิตให้ดี และอย่าลืมไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะครับ
