Uncategorized

“เบาหวาน” ไม่ใช่โรค! แต่คือสัญญาณว่า “ระบบ” สุขภาพคุณกำลังพัง

หลายคนกลัวคำว่าเบาหวาน… แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่า มันไม่ใช่โรคครับ มันคือสัญญาณเตือนว่า “ระบบเผาผลาญ” ที่สำคัญที่สุดในร่างกายของคุณกำลังล่มสลายครับ

ถ้าคุณคิดว่าแค่กินยาลดน้ำตาล หรือฉีดอินซูลิน แล้วทุกอย่างจะจบลง ผมอยากให้คุณเปลี่ยนมุมมองใหม่ เพราะการรักษาที่ยั่งยืนคือการ “รีเซ็ตระบบ” ที่พังไปแล้ว ให้กลับมาทำงานสอดคล้องกันอีกครั้งครับ


ระบบที่ล่มสลาย: อินซูลิน-ตับ-กล้ามเนื้อ และกองทัพฮอร์โมนที่แปรปรวน

ระบบควบคุมน้ำตาลไม่ได้มีแค่อินซูลิน แต่คือการสื่อสารที่ซับซ้อนระหว่างฮอร์โมนและอวัยวะหลายส่วน เมื่อระบบนี้พัง จะเกิดภาวะ “ฮอร์โมนแปรปรวน” ไปทั่วร่างกายครับ

1. กลไกหลักที่เสียสมดุลไป

  • อินซูลิน (Insulin): คือ “กุญแจ” ที่เปิดประตูเซลล์ กลไกหลักที่เสียคือ ภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) ทำให้กุญแจไขไม่เข้า
  • กล้ามเนื้อ (Muscle) และ ตับ (Liver): คือ “ผู้รับคำสั่ง” เมื่อดื้ออินซูลิน กล้ามเนื้อก็ไม่รับน้ำตาลไปใช้ ตับก็ผลิตน้ำตาลไม่หยุด (Glucagon, ฮอร์โมนที่สูงเกินไป มักกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำตาลเพิ่ม)
  • ฮอร์โมนอินครีติน (Incretin Hormones – GLP-1/GIP): เป็นฮอร์โมนจากลำไส้ที่ควรจะช่วยกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลินหลังอาหาร แต่ในผู้ป่วยเบาหวาน การออกฤทธิ์ของอินครีตินลดลง (Diminished Incretin Effect) ทำให้การควบคุมน้ำตาลหลังมื้ออาหารแย่ลง

2. ระบบฮอร์โมนอื่น ๆ ที่ถูกกระทบ

ปัญหาน้ำตาลเรื้อรังลุกลามไปถึงต่อมไร้ท่ออื่น ๆ ดังนี้:

ฮอร์โมนปัญหาผลกระทบต่อร่างกาย
คอร์ติซอล (Cortisol)มักสูงขึ้น (Elevated) จากความเครียดเรื้อรัง (HPA axis dysregulation)ทำให้อาการดื้ออินซูลินแย่ลง โดยตรง
ฮอร์โมนเพศ (Sex Hormones)เทสโทสเตอโรนต่ำ (Low Testosterone) ในผู้ชาย และ SHBG ต่ำ ในทั้งสองเพศ (ในหญิงที่มี PCOS อาจมีแอนโดรเจนสูงขึ้น)สัมพันธ์กับภาวะอ้วนลงพุง และการดื้ออินซูลิน
ไทรอยด์ (Thyroid Hormones)พบภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติได้บ่อยขึ้นส่งผลกระทบต่ออัตราการเผาผลาญโดยรวม
อัลโดสเตอโรน (Aldosterone)อาจสูงขึ้นมีส่วนทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและทำให้อาการดื้ออินซูลินแย่ลง
เลปติน (Leptin)สูง แต่เกิดภาวะดื้อเลปติน (Leptin Resistance)ทำให้สมองไม่รับรู้ความอิ่มและควบคุมน้ำหนักได้ยาก

การกินยาอย่างเดียวจึงไม่ใช่คำตอบ เพราะยาช่วยแค่ลดน้ำตาลปลายทาง แต่ไม่ได้ช่วย “รีเซ็ต” ให้สมองสั่งงาน ตับอ่อนหลั่งอินครีติน กล้ามเนื้อรับคำสั่ง และฮอร์โมนทุกตัวกลับมาสมดุลครับ


3 ระบบหลักที่คุณต้อง “รีเซ็ต” เพื่อฟื้นฟูฮอร์โมนทั้งหมด

การแก้ไขภาวะฮอร์โมนแปรปรวนทั้งหมด ต้องเป็นการฟื้นฟู 3 ระบบหลักให้กลับมาสอดคล้องกันตามธรรมชาติ:

1. ระบบสั่งงาน (สมอง – ฮอร์โมน)

ศูนย์บัญชาการ ที่ควบคุมคอร์ติซอล เลปติน และฮอร์โมนเพศ เราต้องลดปัจจัยที่รบกวนการสั่งงาน (ความเครียดและการนอนไม่พอ) เพื่อให้คอร์ติซอลลดลง และสมองกลับมารับรู้ความอิ่มจากเลปตินได้

2. ระบบรับคำสั่ง (กล้ามเนื้อ – ตับ)

เราต้องทำให้ กล้ามเนื้อ กลับมาเป็นเตาเผาที่พร้อมรับน้ำตาล เคลียร์ไขมันที่แทรกในกล้ามเนื้อ และทำให้ ตับ ลดการผลิตน้ำตาลที่เกินจำเป็น การออกกำลังกาย คือการเพิ่มความไวต่ออินซูลินของเซลล์โดยตรง ช่วยให้กล้ามเนื้อรับคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว

3. ระบบเผาผลาญ (Metabolic Rhythm)

คือ นาฬิกาชีวภาพ ที่ควบคุมจังหวะการทำงานของฮอร์โมนทั้งหมด การ กินผิดเวลา หรือ กินตลอดทั้งวัน เป็นการรบกวนจังหวะของฮอร์โมนอินครีติน อินซูลิน และคอร์ติซอล ทำให้ระบบเผาผลาญพัง การฟื้นฟูจังหวะจึงสำคัญมาก

ผมมีเคสผู้ป่วยที่น้ำตาลคุมยากมาก แม้จะได้รับยาเต็มที่ แต่เมื่อเราปรับเรื่อง คุณภาพการนอนหลับ และ จำกัดเวลากินอาหาร อย่างจริงจังเพียง 4 สัปดาห์ ค่า HbA1c ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะเราได้ “รีเซ็ตระบบสั่งงานและรับคำสั่ง” ให้ฮอร์โมนทุกตัวกลับมาทำงานร่วมกันครับ


วิธีเริ่มต้นฟื้นระบบง่าย ๆ

คุณสามารถเริ่มฟื้นฟูระบบเผาผลาญและฮอร์โมนของคุณได้ตั้งแต่วันนี้ ด้วยการทำ 3 สิ่งพื้นฐานนี้ให้สำเร็จในทุกวัน:

  1. นอนให้ถึง: ตั้งเป้าหมายให้นอนหลับมีคุณภาพ 7-8 ชั่วโมง ต่อคืน เพื่อลด คอร์ติซอล และให้ระบบสั่งงานทำงานได้ถูกต้อง
  2. เดินให้ครบ: เคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยวันละ 30-45 นาที เพื่อกระตุ้นให้ กล้ามเนื้อ เพิ่มความไวต่ออินซูลิน
  3. หยุดกินผิดจังหวะ: ลองเริ่มจากการ งดอาหารทุกชนิด 12-14 ชั่วโมง ในช่วงกลางคืน เพื่อให้ระบบเผาผลาญมีเวลาพักและฮอร์โมนอินครีตินทำงานได้ดีขึ้น

สรุปสุดท้าย

สุขภาพไม่ได้หายดีเพราะปริมาณยาที่เพิ่มขึ้นครับ แต่เพราะระบบภายในที่พังไปแล้วได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาสอดคล้องกันอีกครั้ง การดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดคือการเข้าใจว่าทุกระบบในร่างกายเชื่อมโยงกัน และเริ่มต้นจาก 3 สิ่งพื้นฐานนี้เพื่อรีเซ็ตฮอร์โมนทั้งหมดครับ

Show More

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Check Also
Close
Back to top button