ความรู้ทั่วไปประโยชน์ของโภชนาการพร่องแป้งโภชนาการพร่องแป้ง

ลดแป้งและน้ำตาลแปรรูป ช่วยให้มีสมาธิดีขึ้น เรื่องจริงหรือนิยาย?

แหล่งขุมพลังงานของสมอง

สมองของเราสามารถใช้พลังงานได้จากทั้งน้ำตาลและคีโตน และคุณรู้หรือไม่ว่าในเด็กทารก สมองจะมีสัดส่วนการใช้คีโตนที่มากกว่าน้ำตาลหลายเท่า คำถามคือ ความแตกต่างกันของการใช้น้ำตาลและคีโตนของสมองคืออะไร

รู้จักกับคีโตนในสมอง

เมื่อร่างกายมีระดับอินซูลินที่ลดระดับลงมากพอ ร่างกายก็จะเริ่มเปลี่ยนไขมันในร่างกายให้กลายเป็นคีโตนเพื่อใช้เป็นพลังงานมากขึ้นในการที่จะมาเสริมพลังงานจากน้ำตาล โดยไขมันจะถูกเปลี่ยนรูปเป็น BHB หรือ Betahydroxybutyrate ซึ่งเป็นรูปแบบของคีโตนที่ได้จากการเปลี่ยนไขมันที่ตับและพบมากที่สุดในกระแสเลือด และจะเป็นขุมพลังงานจากคีโตนที่สำคัญต่อไป

คุณสมบัติของคีโตนเมื่อเทียบกับน้ำตาลเมื่อถูกใช้เป็นพลังงาน

BHB มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ สามารถผ่านเยื่อหุ้มสมองได้อย่างรวดเร็ว ให้พลังงานที่มากกว่าที่การใช้ออกซิเจนเท่าๆกัน และมีการศึกษาที่พบว่าคีโตนสามารถลดระดับของอนุมูลอิสระภายในเซลล์ประสาทได้ ซึ่งองค์ความรู้เหล่านี้เป็นหนึ่งในสมมติฐานในการรักษาเด็กที่เป็นลมชักในสมัยก่อน ก่อนที่ยากันชักจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

อาหารการกินและการไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันหยุดภาวะคีโตสิสให้เกิดน้อยลง

ร่างกายของเรามีแนวโน้มที่จะมีโอกาสผลิตคีโตนออกมาน้อยลง อันเนื่องมาจากอาหารในปัจจุบันที่เราทานกันเป็นปกติ ไม่ได้เป็นอาหารธรรมชาติ มีคุณสมบัติทำให้เราทานได้มาก สะสมพลังงานมาก รวมถึงมีพฤติกรรมที่กินบ่อย จุบจิบ ซึ่งคีโตนจะถูกสร้างก็ต่อเมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะท้องว่างเท่านั้น และอาหารที่จะทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะคีโตสิสได้ไวก็จะต้องเป็นอาหารธรรมชาติเท่านั้น

ทำไมเวลาขาดน้ำตาลและเรารู้สึกหิว

เวลาที่ร่างกายของเราได้รับอาหารแปรรูปมานาน จะทำให้ร่างกายมีระดับอินซูลินที่สูงตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่เรามีระดับของน้ำตาลในเลือดลดลง ร่างกายจะยังไม่เก่งในการที่จะเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นคีโตนได้ดี สมองของเราก็สั่งให้เราอยากน้ำตาลมากขึ้น ซึ่งอาการอยากเหล่านี้จะต้องได้รับการบำบัดแก้ไขผ่านการทานอาหารธรรมชาติ การออกกำลังกายและ IF ก็จะช่วยให้คีโตนออกมาได้มากขึ้น

สรุปการลดแป้งและน้ำตาลช่วยทำให้มีสมาธิดีขึ้น

คำกล่าวข้างต้นก็เป็นเรื่องจริงที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ไม่ใช่คำกล่าวลอยๆ สมองจะยังคงมีการใช้น้ำตาลอยู่ แต่เพียงเราทำให้สมองกลับมาใช้พลังงานหลักจากคีโตนเหมือนสมัยเราตอนเด็กๆเท่านั้นเองครับ

Show More

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button