ไขมัน

 LDL ไม่ใช่สิ่งที่เราควรดูเป็นหลัก

ก่อนอื่นลองตอบคำถามเหล่านี้ในใจดูก่อน

1. คอเลสเตอรอลเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจใช่หรือไม่
2. ท่านให้คะแนนความกลัวคอเลสเตอรอลสูงเท่าไหร่(เต็มสิบ)

ผมจะไม่พูดถึงกลไกการลำเลียงและเมตาบอลิซึมของกรดไขมันนะครับแต่ผมจะแปะลิงค์ไว้ให้ ถ้าท่านไหนต้องการเข้าไปดูหรือทบทวนก็สามารถเข้าไปที่ลิงค์ได้เลย☑️

Quote ที่ 1 คอเลสเตอรอลจะสูงขึ้นตามความต้องการในการใช้ไขมันของร่างกาย
☑️เหตุผล คือ คอเลสเตอรอลเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ติดอยู่ตรงผิวนอกของ Lipoprotien ที่ทำหน้าที่เหมือน BTS ในการลำเลียงผู้โดยสารไขมัน เพราะฉะนั้นถ้าร่างกายมีความต้องการลำเลียงกรดไขมันในเลือดจากที่นึงไปยังที่นึงมาก Lipoprotien เหล่านี้จะสูงมากขึ้น คอเลสเตอรอลจึงสูงตามไปด้วย

Quote ที่ 2 คอเลสเตอรอลจะสูงขึ้นตามปริมาณของอินซูลินที่สูงมากขึ้น
☑️เหตุผล คือ อินซูลิน Block การใช้ไขมันเป็นพลังงาน และพลังงานส่วนเกินทั้งจากคาร์บ โปรตีนรวมถึงไขมันเองจะถูกสะสมในรูปของไขมันทั้งสิ้น ร่างกายยังคงสร้างไขมันตลอดเวลา แต่หาได้ใช้ไม่หรือใช้น้อยมาก Lipoprotien จึงต้องออกมาช่วยแบกรับภาระ และไม่สามารถปล่อยไขมันให้ออกไปใช้เป็นพลังงานได้เพราะอินซูลินเป็นตัวบอกให้เซลล์ปลายทางให้ใช้กลูโคสแทนและอะไรที่หน้าตาเหมือนไขมันก็เก็บไว้ก่อน คอเลสเตอรอลในเลือดจึงสูงตาม Lipoprotien

ลองนึกภาพรถไฟฟ้า BTS เมืองไทย ถ้าวันดีคืนดีเกิดการจราจลด้านนอกผู้ประท้วงมาปิดสถานีทั้งๆที่มีผู้โดยสารจำนวนมากค้างอยู่บนสถานีและบนตู้รถ ไปสยามก็ลงไม่ได้ เลยไปชิดลมก็ลงไม่ได้ แต่คนบนสถานีก็ยังเยอะจึงเสริมรถขบวนอื่นมาเพิ่มอีก ทีนี้ทั้งคนทั้งรถก็ติดแหง่กกันอยู่บนรางมากขึ้น อินซูลินและภาวะดื้ออินซูลินก็เช่นกัน ที่เปรียบเสมือนความรุนแรงด้านนอกแล้วมาปิดสถานีรถไฟฟ้า ผู้โดยสารและ BTS จำนวนหลายคันจึงค้างอยู่ข้างบนมากมาย LDL ก็เช่นกันครับ ถ้ามีการตกค้างในเลือดนานก็หมดอายุถูกสันดาป เป็น Oxidized LDL ได้ โดยเฉพาะ small dense LDL ที่ถูก oxidize ได้ง่ายมากๆครับ

แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าข้างนอกไม่มีความวุ่นวาย ทุกสถานีเปิดโล่ง คนก็สามารถถ่ายเทออกจาก BTS ได้ดี ยิ่งคนเยอะ จำนวนขบวน BTS ก็ยิ่งเยอะ แต่คนก็เข้าออกได้ Flow ดีไม่มีตกค้าง คนก็ได้ไปทำงาน ไปมี Productivity ต่อประเทศชาติ BTS ก็ได้กลับอู่โดยสวัสดิภาพ

มองเห็นความแตกต่างไหมครับ❤️

เพราะฉะนั้นถ้าจะแยกว่าคอเลสเตอรอลของเราที่สูงมาจากไหน ผมใช้วิธีดูจาก

☑️ อาการของภาวะดื้ออินซูลิน เช่น หิวบ่อย อ่อนเพลีย ฯ
☑️ ระดับ Fasting insulin ,Oral glucose tolerance test, HOMA-IR
☑️ ระดับ HbA1c, Blood sugar
☑️ ระดับ TG:HDL ratio

และเอาหลายข้อมาวิเคราะห์รวมกัน

คำถามคือว่า ถ้าคนที่ติดบนรถไฟฟ้าติดอยู่ข้างบนนานมากจนไม่พอใจ ลงมาทุบสถานีและรางรถไฟจนพัง คุณจะโทษตู้รถไฟ BTS หรือคนที่ปล่อยรถไฟออกมาเยอะๆไหมครับ

หรือจะโทษความวุ่นวายข้างนอกที่ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากต้องติดอยู่ใน BTS กันแน่
ขอบคุณครับ

Show More

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button