14+1 เหตุผล ที่ทำให้น้ำตาลลงยากในมนุษย์เบาหวาน

น้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับมนุษย์ น้ำตาลทั้งชนิดเดี่ยวและซับซ้อนจะถูกย่อยเป็นกลูโคสโดยระบบย่อยอาหาร เมื่อกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด จะถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์โดยฮอร์โมนอินซูลินที่ผลิตจากตับอ่อน
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นสาเหตุหลักของระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง เนื่องจากร่างกายมีการอักเสบที่ทำให้เซลล์ปลายทางป่วยและไม่รับน้ำตาลจากในกระแสเลือดเข้าไปเก็บ ทำให้พบการตกค้างของน้ำตาลในกระแสเลือด
หลายท่านก็อาจกำลังพยายามรักษาเบาหวานด้วยวิธีต่างๆเพื่อพยายามแก้ไขที่ต้นเหตุ ไม่นับรวมการใช้ยา เพราะยาไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ
แต่ในคนที่กำลังโฟกัสในการรักษาเบาหวาน ด้วยการทาน Low Carb IF แต่กลับพบว่าน้ำตาลไม่ลงซักที คุณลองเช็คลิสต์สิ่งเหล่านี้ดูว่ามีสิ่งเหล่านี้หรือเปล่าที่อาจทำให้น้ำตาลของคุณไม่ลดลง
- คาร์บแฝง คาร์บแฝงมีอยู่ในทุกๆที่ โดยเฉพาะอาหารที่หน้าตาไม่เหมือนคาร์บ ใครที่ชอบปรุงนั่น เติมนี่ก็ควรระมัดระวังข้อนี้ด้วยนะครับ
- การรับประทานอาหารในเวลากลางคืน ร่างกายย่อยและดูดซึมอาหารได้ดีที่สุดในช่วงกลางวัน การรับประทานอาหารปริมาณมากในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดกระเพื่อมและรบกวนการนอนหลับ
- มื้ออาหารที่มีคาร์บสูงและไขมันสูง
การรับประทานมื้ออาหารที่มีทั้งคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน เนื่องจากไขมันจะชะลอการย่อยและดูดซึมคาร์โบไฮเดรต ทำให้น้ำตาลถูกปล่อยสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆ โดยที่ไม่เกิดการใช้งานน้ำตาลให้เกิดประโยชน์ - ภาวะน้ำหนักเกิน ภาวะน้ำหนักเกินเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน เซลล์ไขมันที่มีขนาดใหญ่เกินไปจะปล่อยกรดไขมันสู่กระแสเลือด ลดการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ และก่อให้เกิดการอักเสบเล็กน้อยแบบเรื้อรัง ซึ่งรบกวนการตอบสนองต่ออินซูลิน
- การมีชีวิตประจำวันแบบนั่งเฉย การขาดการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลง เนื่องจากเซลล์กล้ามเนื้อไม่ได้ใช้น้ำตาลเป็นพลังงาน การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
- ความเครียด ฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นกลไกการตอบสนองต่อภาวะคุกคามในอดีต แต่ในปัจจุบันความเครียดเป็นแบบเรื้อรัง จึงทำให้ระดับน้ำตาลสูงตลอดเวลา
- การใช้ยาสเตียรอยด์ ยากลุ่มสเตียรอยด์ เช่น เดกซาเมทาโซนหรือคอร์ติโซน สมุนไพร ยาหม้อยาชุด มีฤทธิ์คล้ายคลึงกับคอร์ติซอล อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ หากใช้เป็นเวลานาน
- การขาดน้ำ การขาดน้ำอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำในร่างกายลดลง ส่งผลให้กระแสเลือดมีความเข้มข้นมากขึ้น ระดับน้ำตาลจึงสูงตามไปด้วย คนที่ออกกำลังกายหนักหรือในสภาพอากาศร้อน จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอนะครับ
- โรคของต่อมไร้ท่อ โรคของต่อมไร้ท่อบางชนิด เช่น โรคเกี่ยวกับต่อมใต้สมอง โรคคุชชิ่ง และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากหรือน้อยเกินไป อาจทำให้มีภาวะฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือระบบเผาผลาญผิดปกติ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้
- โรคระบบอื่นๆ ที่มีการอักเสบแฝง อาทิเช่น เมื่อเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานหนัก ร่างกายต้องปล่อยฮอร์โมนต่างๆ เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตน้ำตาลมากขึ้นและดื้อต่ออินซูลินชั่วคราว การกันไว้ก็จะดีที่สุดครับ นอกจากนี้โรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบอื่นๆ เช่น SLE , รูมาตอยด์ หรือแม้กระทั่งการได้รับวัคซีน ทำให้มีการสูงขึ้นของค่าการอักเสบ(ESR, hs-CRP) ก็ส่งผลให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นได้เช่นกัน
- การนอนไม่หลับ การพักผ่อนไม่เพียงพอหรือการนอนหลับผิดปกติจะทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน โดยเฉพาะในกรณีของผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนและปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
- การดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงชั่วคราวก่อน แล้วจะเพิ่มสูงขึ้นในภายหลัง เนื่องจากร่างกายให้ความสำคัญกับการย่อยแอลกอฮอล์ก่อน จึงละเลยกระบวนการควบคุมระดับน้ำตาล
- ฮอร์โมนเพศหญิง ในช่วงรอบเดือนและวัยหมดระดู ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลินมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเช่นน้ำหนักเพิ่ม ลดน้ำหนักยาก และเหนื่อยง่าย
- สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้
จุลินทรีย์ในลำไส้มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมระดับน้ำตาล หากจุลินทรีย์ดีถูกรบกวนสมดุล อาจทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินน้อยลง เกิดการอักเสบของเซลล์ไขมัน และเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานได้
+1 คือคุณอาจเป็นเบาหวานประเภทอื่น เช่น Type 1, LADA, MODY ที่มีระดับอินซูลินไม่เพียงพอต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ Baseline ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ได้ครับ
สรุปได้ว่า ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ทั้งจากการดื้ออินซูลิน การผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือความผิดปกติของฮอร์โมนอื่นๆ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ